วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2560

การถอน BitCoin ออกจาก HashFlare

Update 16/12/2560    

สำหรับ HashFlare หรือ Cloudmining ในเจ้าอื่น ๆ เมื่อมี BTC ครบแล้วตามกำหนดแล้ว จะสามารถอนเอาไปไว้ใน BTC wallet ได้เลยในระเบียบของการถอนของ HashFlare นั้นค่อยข้างที่จะต้องมีจำนวนมากพอสมควรที่จะสามารถถอนได้ เดี๋ยวมาดูรายละเอียดตรงนี้ดีกว่า


ที่มา : https://hashflare.zendesk.com/hc/en-us/articles/207973869-How-to-make-a-withdrawal-
   หลังจากที่ดูรายละเอียดกันแล้ว จะพบว่าค่าถอน BTC สามารถจะถอนได้ต้องมีมากกว่า 0.0107 BTC และเป็นค่าธรรมเนียมในการถอน 0.0007 BTC ซึ่งเป็นค่าที่มากพอสมควร ถึงแม้ว่าจะสามารถถอนได้เมื่อมีถึง 0.0107 ก็พอรับได้ เนื่องจาก HashFlare เป็น Cloudmining ที่ไม่นิ่ง สามารถเปลี่ยนแปลงสัญญาการถอนได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ก็อาจะมีโอกาสในอนาคตที่จะลดเกณฑ์การถอนลง ผู้เขียนเชื่อว่าแบบนั้น





Reinvest คืออะไร ?

    Reinvest คือ คำสั่งในการซื้อกำลังขุด (Hashrate) ให้เพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยใช้ Balance หรือ BTC ที่เขาขุดขึ้นมาได้ มาต่อกำลังขุดให้เราเอง เราสามาถตั้งค่าไม่ให้ Reinvest ได้สามารถทำตามขั้นตอนดังนี้


ปุ่มตั้งค่าจะอยู่ขวามือสุด แล้วกดปุ่น Reinvest 


1. Do not reinvest ไม่ให้ซื้อกำลังขุดโดยอัติโนมัติ
2. Reinvest in SHA-256 ให้ซื้อกำลังขุดอัติโนมัติใน Algorithm SHA-256
3. Reinvest in Scrypt ให้ซื้อกำลังขุดอัติโนมัติใน Algorithm Scrypt 

ปล.ความคิดเห็นจากผู้เขียน ผู้เขียนไม่ Reinvest เพราะ BTC เราจะหาย ทำให้ยอดไม่ถึงการถอน (Withdrawals)

แนะนำการใช้งาน Setting

     หน้า Setting เป็นการตั้งค่าในส่วนต่าง ๆ ของ Account ใน HashFlare





    1.  ในส่วนแรกนั้นจะเป็นส่วนของ Profile จะประกอบไปด้วย Email ของเรา (ไม่สามารถเปลี่ยนได้) และรูปภาพของเรา ที่ต้องสมัครผ่าน Gravatar (ถ้ามีโอกาสอาจจะเขียนในคราวหน้า วิธีการใส่รูป Profile ใน HashFlare )




    2. ส่วนต่อมาคืนส่วนของที่อยู่ในของ Wallet เป็นส่วนสำคัญที่จำเป็นต้องมี เพราะเมื่อเวลาเราถอน เราจำเป็นต้องมีกระเป๋าเงินรองรับ BTC และนำไปขายเพื่อให้กลับมาเป็นเงินบาท 



ปล. ถ้าการเปลี่ยนแปลงที่อยู่กระเป๋าเงิน เราจะไม่สามารถถอน BTC ออกมาได้ จะถูก Account Hold เป็นเวลา 14 วัน  เนื่องจากเป็นการป้องกันการลักลอบการแอบเปลี่ยนที่อยู่ของกระเป๋าเงิน BTC

3. ส่วนสุดท้ายคือเปลี่ยนแปลง Password และการยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน 






การปรับ Pool ให้ขุดได้เยอะ ๆ

     Pool คืออะไร Pool ในความหมายโดยทั่วไป จะหมายถึงสระน้ำ แต่ความหมายของในเชิง Cryptocurrency นี้หมายถึง การนำกำลังขุดของแต่ละคน มาขุดร่วมกันเพื่อให้ได้กำลังขุดที่เยอะขึ้น แย่งชิงการขุดใน Block แต่ละ Block เพื่อให้เจอเร็วขึ้น จากนั้นก็นำ BTC ที่ได้นำมาแบ่งกันนั้นเอง ใน HashFlare เราสามารถปรับ Pool ได้วันละ 1 ครั้ง
     ในการปรับ Pool แต่ละ Pool ใน HashFlare สามารถทำได้ดังนี้ 
1. เปิดหน้า Dashboard 
2. ไปที่ Pool ของเรา แล้วกดตรงฟันเฟือง
     
3. สามารถเกิดเลือก ใช้ทั้ง 3 Pool ได้ แบ่งกัน 33% หรือจะใช้ 100% ใน 1 Pool ก็ได้ หรือจะแบ่งเป็น 50 % กับ 50% (ผู้เขียนเองชอบปรับ 100 % ใน 1 Pool เลย) สามารถปรับได้ตามความชอบ


Pool ที่สามารถปรับ และเลือกได้ใน HashFlare 


เทคนิคการปรับ Pool ตามเซียน BTC ที่เขาเล่ากันมา
       1. ดู Pool ทั้งหมดที่ https://blockchain.info/pools
       2. แนะนำให้เลือกปรับ Pool ที่มีจำนวน % มากที่สุด โอกาสที่ขะขุดได้มากมีเพิ่มขึ้น
       3. Pool ที่มีประวัติมีจำนวน Hashrate มากที่สุดคือ AntPool  
  
Pools ทั้งหมดที่ใช้ในการขุด BTC ที่มา : https://blockchain.info/pools

ปล. AntPool มักจะเป็น Pool ที่มีจำนวน Hashrate มากที่สุด ส่วน BTC.TOP เป็น Pool ส่วนบุคคลไม่สามารถร่วมเลือกขุดได้ Slush Pool เป็น Pool ที่เก่าแก่เกิดมาพร้อมกับ BTC และ F2Pool เซียน BTC เขาพูดว่า เป็น Pool ที่จ่ายเงินเยอะที่สุด !

แนะนำการใช้งาน History

        History เป็นส่วนในเมนูของ HashFlare เป็นเหมือนกับการเก็บประวัติ ทุก ๆ อย่างที่เราเคยทำไว้กับ HashFlare ไม่ว่าจะเป็นการซื้อกำลังขุด (Hashrate) สัญญาขุด (ตัวเดียวกับกำลังขุด) การถอนเงิน การได้รับ BTC ในแต่ละวัน (Payout) และการหักเงินสำหรับค่าบำรุงหรือค่าไฟนั้นเอง 



แนะนำการใช้งาน Dashborad

     สำหรับหน้า Dashboard เป็นเหมือนหน้า Page ดูความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ทั้งเงินเข้า สถิติต่าง ๆ การเลือกปรับ Pool (ซึ่งจะเขียนบทความเกี่ยวกับการปรับ Pool ในโอกาสต่อไป)


1. ส่วนแรก แถวสีแดงยาว และ แถบสีฟ้ายาว เป็นประกาศจาก HasFlare อาจจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ การปรับปรุง Server หรืออื่น ๆ ข่าวต่าง ๆ ที่ HashFlare อยากแจ้งให้กับผู้ใช้งาน 

2. ส่วนแสดงรายได้ BTC ที่สะสม กราฟแสดง BTC ที่สะสม 


     2.1 BTC Balance ที่ผู้เขียนมีอยู่ , Last SHA-256 Payout คือ แต่ละวันที่ HashFlare จ่ายให้เรา และ Last Scrypt Payout คือ ถอนครั้งล่าสุด ถอน BTC ไปเท่าไหร่ (ผู้เขียนยังไม่เคยถอน)


   2.2 กราฟเส้นคือ จะแสดงเงินสะสมในแต่ละวัน ถ้ามีการถอน หรือการ Reinvest กราฟจะตก (Reinvest จะอธิบายในบทความหน้า) กราฟแท่งจะแสดง BTC ที่เข้าใน Balance ของเราในแต่ละวัน



3. ส่วนต่อมาคือ Panel ที่แสดงการขุด กำลังขุด การแสดง Pool ที่เลือก การคาดคะเน คาดเดา รายได้ต่อ 1 TH/s และรายได้ที่คาดเดาในแต่ละวัน


     3.1 กำลังขุดที่เรามี สามารถเติมสะสมได้เรื่อย ๆ 


    3.2 แสดง Poll ที่เราสามารถปรับเลือก ตามความต้องการ และสามารถเลือกปรับได้วันละ 1 ครั้ง

    3.3 ค่าที่ HashFlare จ่ายมาแต่ละวัน ต่อ 1 TH/s ค่าจะขึ้นหรือลง จะขึ้นอยู่กับค่า Diff และราคา ของ BTC


   3.4 ค่า BTC ที่เราคาดว่าจะได้แค่แต่ละวัน  ค่าจะขึ้นหรือลง จะขึ้นอยู่กับค่า Diff และราคา ของ BTC



ปล. เงินที่ควรนำมาลงทุน คือ เงินที่ไม่ร้อน หรือเงินที่ไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะ การขุด BTC ทุกชนิดต้องใช้ระยะเวลานาน กว่าจะได้กำไร และเงินทุน ดังนั้นการใช้เงินร้อน เงินที่ต้องหมุนมาลงทุน ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง
ปล1. การลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและทำให้เข้าใจก่อนลงทุน













การซื้อกำลังขุด SHA-256 แบบละเอียด

สมัครสมาชิกและซื้อกำลังขุด https://hashflare.io/r/44855DF9

1. เมื่อเราทำการยืนยันเสร็จแล้ว เขาจะแจ้งให้เราซื้อกำลังขุด เลือก Algorithm ของการขุด เป็น SHA-256 (แนะนำ) หรือ อื่น ๆ ก็ซื้อกำลังขุดในแบบเดียวกัน


2. เมื่อเข้ามาในหน้านี้ ให้เลื่อนเลือก กำลังขุดตามที่เราต้องการ ข้างล่าง Scale จะบอกราคากำลังขุดที่เราต้องจ่าย โดยปกติ 1 TH/s = 1024 GH/s จะมีราคาเท่ากับ 150.0 USD หรือเท่ากับ (150 x 35 คำนวณแบบคราว ๆ  ) แล้วกด Proceed 



3. จะเข้าสู่หน้า รายการจ่ายเงิน แล้วกด Select payment method เพื่อที่จะเลือกวิธีการชำระเงิน 

4. เลือกตามที่เราต้องการจ่ายเงิน 
    1. Pay with BTC คือ จ่ายด้วย Bitcoin
    2. Pay from Balance คือ จ่ายด้วย BTC ที่เราขุดได้
    3. Pay with EMC คือ จ่ายด้วย EMC 
    4. แนะนำ Pay with credit card (C) (ผู้เขียนจ่ายด้วย Truewallet ตลอด)



5. กดคลิก  I confirm that I have read and agree with Terms and Conditions แล้วกด Confirm 

6. กรอกรายละเอียดของบัตร Credit card ลงไป เมื่อกด Pay

8. เมื่อทำรายการสำเร็จแล้ว HashFlare จะถามถึง รหัสการจ่ายเงิน 4 ตัว ซึ่ง HashFlare ไม่ได้ส่งใน Email ของเราที่ใช้สมัคร แต่จะอยู่ที่บันทึกการทำรายงานของผู้ใช้บัตรนั้น ๆ เอง อย่างเช่น 
8.1 ผู้เขียน ใช้บัตรของกรุงไทย ก็จะอยู่ใน Netbank ของ KTB Online รหัส 4 ตัวคือ 2510 เป็นต้น

8.2 ถ้าใช้ True Wallet รหัส 4 ตัวหลักก็จะอยู่ในรายการประวัติการของการซืิ้อ ดังรูป




9. หลังจากการซื้อแล้ว เราจะพบกับกำลังขุดที่เรามี โดยจะอยู่หน้า Dashboard ซึ่งหลังจากการจ่ายเงินเสร็จแล้ว HashFlare จะจ่าย BTC ประมาณ 24 ชั่วโมงหลังจากการซื้อกำลังขุด วันและ 1 ครั้งพร้อมกับหักค่าไฟ ค่าบำรุงรักษาตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก



ปล. เงินที่ควรนำมาลงทุน คือ เงินที่ไม่ร้อน หรือเงินที่ไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะ การขุด BTC ทุกชนิดต้องใช้ระยะเวลานาน กว่าจะได้กำไร และเงินทุน ดังนั้นการใช้เงินร้อน เงินที่ต้องหมุนมาลงทุน ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง
ปล1. การลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและทำให้เข้าใจก่อนลงทุน




















การสมัคร HashFlare

ขั้นตอนในการสมัครสมาชิก
1. เข้าที่ https://hashflare.io/r/44855DF9 จะพบหน้า กรอกข้อมูลส่วนตัวและ Email ที่ใช้ในการสมัคร 
2. เมื่อสมัครเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทาง HashFlare จะให้เข้าไปยืนยัน Email ที่เราได้ทำการกรอกไว้ 


3. ยืนยันการสมัคร ตาม Link ที่ HashFlare ส่งมาให้









ค่าธรรมเนียม (สัญญาในการขุด)

HashFlare สามารถขุดได้หลาย Cryptocurrency แต่ที่นิยมมากที่สุดคือ BTC (Bitcoin) เพราะมีราคาสูงและเป็น Cryptocurrency ตัวแรกที่นิยมที่สุด โดยสัญญาการขุดจะเป็น 1 ปี นับจากมันที่ซื้อกำลังขุด (HashRate) ภายใน 24 ชั่วโมง และจะจ่ายให้ทุก ๆ ตามกำลังขุดที่ซื้อไว้ โดยสัญญาในการขุดจะมีดังนี้

1. ขุดโดยใช้ SCRYPT Algorithm โดย Hashrate ขั้นต่ำ 1 MH/s ค่บำรุงรักษา (ค่าไฟ) 0.005$ (ในหน่วยของ BitCoin) ต่อ 1 MH/s ต่อ 1 วัน จ่ายออกมาเป็น BitCoin (ไม่แนะนำ มีราคาแพง



2. ขุดโดยใช้ SHA-256 Algorithm โดย Hashrate ขั้นต่อ 10 GH/s ค่าบำรุงรักษา (ค่าไฟ) 0.0035 ต่อ 10 GH/s ต่อ 1 วัน จ่ายออกมาเป็น BitCoin (แนะนำ ให้ 5 ดาว) ปล.ขึ้นราคา ณ วันที่ 20/12/2560 เทียบเท่ากับเจ้าอื่น ๆ และมีจำนวนจำกัด





3. Algorithm ขุดเหรียญ Etherum เป็น (Alternative Cryptocurrency)  ที่น่าจับตามอง เพราะมีราคาสูงขึ้นเรืิ่อย ๆ Hashrate 100 KH/s ค่าบำรุงรักษา ไม่มี จ่ายออกมาเป็น Etherum สัญญาการขุด 1 ปีเหมือนกัน (แนะนำ ให้ 4 ดาว)



ส่วน Alternative Cryptocurrency อื่น ๆ HashFlare เขาก็มีขุดนะครับ แต่ขอไม่กล่าวถึงในส่วนของตรงนั้น 


ลงทุนกับ HashFlare คลิกตรงนี้ : https://hashflare.io/r/44855DF9




วันอังคารที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2560

[รีวิว] รู้จักกับ Hashflare


Hashflare คืออะไร ?

    คือ ผู้ให้บริการกำลังขุด ขุด Cryptocurrency ต่าง ๆ ที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า Cloud Mining แทนที่เราจะขุดเอง แต่ไปเช่าเครื่องของเขามาขุด เราสามารถซื้อกำลังขุดเริ่มแรกได้ แค่เพียง  $2.20 USD ต่อ 10 GH/s ซึ่งเป็นการลงทุนที่ราคาถูกมาก ๆ ในตลาดของ Cloud Mining 

แล้วความเชื่อถือของ HashFlare ละ ?
    HashFlare เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2015 โดยบริษัทแม่เป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องขุด ASIC MINER โดย CEO มีแนวคิดว่า เครื่องขุดของพวกเขามีราคาแพง จึงจะทำอย่างไร ให้ทุกคนสามารถขุด BTC ขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องจำเป็นต้องจ่ายเเพง เลยเกิดมาเป็น HashFlare คือ Cloud Mining ที่เป็นที่นิยมที่สุด และมีความเชื่อถือมาก เนื่องจาก HashFlare พยายามทำให้ผู้คนเห็นว่าพวกเขามีตัวตนเอง มีสถานที่ทำการตั้งเครื่องขุดอยู่ที่ เมืองทาลลินน์ (Tallinn) ประเทศเอสโตเนีย (Estonia) สถานที่ตั้งเครื่องขุดของ HashFlare      
      จากการจัดอันดับของ Bestcloudmining.net พบว่า HashFlare คือ Cloudmining ที่ดีที่สุด ความเสี่ยงต่ำ (เสี่ยงต่อชักดาบหนี) ต่ำที่สุด




ที่มา : http://www.bestcloudmining.net/

ลงทุนกับ HashFlare คลิกตรงนี้ : https://hashflare.io/r/44855DF9